วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

ตอนที่3  การเล่นหมากเก็บ


                เมื่อโรงเรียนเริ่มเปิดเรียนเป็นวันแรก  ของเล่นที่น้องนัทจะขอกับปู่หมู่ก็ต้องหยุดไว้ก่อน  น้องนัทโดนย่าปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้าน้องนัทขยี้ตาแล้วบอกกับย่าว่า  “นัทไม่ไปไม่ได้หรอครับย่า”  ย่าก็บอกว่า  “แล้วไม่อยากเจอเพื่อนๆหรอ”  พอน้องนัทได้ยินคำที่ย่าพูดก็ลืมตาขึ้นวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนอย่างรวดเร็ว น้องนัท  น้องนุ่น และน้องแนน  ได้เจอกันกันเป็นครั้งแรกพร้อมกับการละเล่นของเด็กๆในตอนนี้ การละเล่นนี้  การละเล่นนี้ส่วนมากจะเล่นเฉพาะในกลุ่มของผู้หญิง  เรียกว่า  การเล่นหมากเก็บ
                การเล่นหมากเก็บเป็นการละเล่นที่เรียบง่ายไม่ต้องเสียเงินในการซื้อของเล่นเหมือนคนในเมืองที่จะต้องไปซื้อของเล่นมา และในบางคนอาจจะไปเข้าร้านเกมเพื่อเล่นเกมในอินเตอร์เน็ต  จะต้องเสียเงินจ่ายค่าเน็ตหรือเล่นเกมในโทรศัพท์จะต้องเสียเงินจ่ายค่าโทรศัพท์  ค่าสายชาร์ด  ค่าไฟ  และค่าเติมเงินใส่โทรศัพท์กว่าที่จะได้เล่นไม่เหมือนการเล่นหมากเก็บที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่หาเล่นง่ายๆ  น้องนุ่นพูดว่า  “การเล่นมากเก็บถึงจะเป็นการละละของชาวบ้านแต่ก็ทำให้เรามีความสุขนะ  ใครจะเล่นกับนุ่นบ้าง”  นัทกับแนนตอบทันทีว่า  “เล่น  แต่เล่นไม่เป็น”  เดี๋ยวนุ่นสอนเอง เขาใช้แค่ก้อนหินหรือก้อนกรวดเท่านั้นและก็เล่นกันตั้งแต่ 2 4 คน   
                การเล่นหมากเก็บใช้ก้อนหินหรือก้อนกรวดที่มีลักษณะกลมๆ 5 ก้อน เสี่ยงทายว่าใครจะเล่นก่อน โดยวิธีขึ้นร้าน คือ ถือหมากทั้งห้าเม็ดไว้แล้วโยนพลิกหงายหลังมือรับ แล้วพลิกมือกลับรับอีกที ใครเหลือหินอยู่ในหินอยู่ในมือมากที่สุดคนนั้นเล่นก่อน มีทั้งหมด 5 หมาก
                หมากที่ 1 ทอดหมากให้ห่างๆ กัน เลือกลูกนำไว้ 1 เม็ด ควรใช้เม็ดกรวดที่ห่างที่สุด โยนเม็ดนำขึ้นแล้วเก็บทีละเม็ดพร้อมกับรับลูกนำที่หล่นลงมาให้ได้ ถ้ารับไม่ได้ถือว่า "ตาย" ขณะที่หยิบเม็ดที่ทอดนั้น ถ้ามือไปถูกเม็ดอื่นถือว่า ตาย
                หมากที่ 2 เก็บทีละ 2 เม็ด
                หมากที่ 3 เก็บทีละ 3 เม็ด
                หมากที่ 4 ใช้โปะ ไม่ทอด คือ ถือหมากทั้งหมดไว้ในมือ โยนลูกนำขึ้นแล้วโปะเม็ดที่เหลือลงพื้นแล้วรวมทั้งหมดที่ถือไว้
                การเล่นหมากเก็บถึงจะมีแค่ก้อนหินหรือก้อนกรวดแต่ก็สามารถเล่นได้หลายแบบนะ เดี๋ยวนุ่นจะบอกการเล่นหมากเก็บแบบที่สองกันว่าจะสนุกเหมือนแบบที่หนึ่งหรือเปล่า
                หมากเก็บแบบที่สอง  "ขึ้นร้าน" ได้กี่เม็ดเป็นแต้มของคนนั้น ถ้าขึ้นร้านเม็ดหล่นหมด ใช้หลังมือรับไม่ได้ ถือว่า "ตาย" ไม่ได้แต้ม คนอื่นเล่นต่อไป ถ้าใครตายหมากไหนก็เริ่มต้นหมากนั้น ส่วนมากกำหนดแต้ม 50-100 แต้ม เมื่อแต้มใกล้จะครบ เวลาขึ้นร้านต้องคอยระวังไม่ให้เกินแต้มที่กำหนด ถ้าเกินไปเท่าไร หมายถึงว่าต้องเริ่มต้นใหม่โดยได้แต้มที่เกินไปนั้น วิธีเล่นหมากเก็บนี้มีพลิกแพลงหลายอย่าง เช่น โยนลูกนำขึ้นเก็บทีละเม็ด เมื่อเก็บได้เม็ดหนึ่งก็โยนขึ้นพร้อมกับลูกนำ 2 - 3 - 4 เม็ด ตามลำดับ หมาก 2 - 3 -4 ก็เล่นเหมือนกัน  โยนขึ้นทั้งหมด   เรียกว่า "หมากพวง"
                แนน : “โฮ๋! นุ่น มันเล่นได้หลายอย่างจัง  ดีจังเลย”
                นัท : “แล้วมันสามารถทำอะไรได้อีกล่ะนุ่น”
                นุ่น : “มันมีประโยชน์อีกนะ”
                นัท : “มันมีประโยชน์อย่างไรหรอ”
                นุ่น : “เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  ฝึกสมาธิ เกิดไหวพริบในการแก้ปัญหา  ฝีกน้ำใจเป็นนักกีฬา โดยปราศจากการพนันอันเป็นอบายมุข  และเป็นการปลูกฝังความรักความสามัคคีในหมู่เด็กอย่างเราด้วยนะ
                นัท  แนน  “โอ้โฮ๋! อัศจรรย์จริงๆเลยนุ่น  แค่ก้อนหินสามารถทำให้เราได้เล่นสนุกกันและมีความสุขได้ขนาดนี้”
                นุ่น : “ใช่แล้ว!  แค่ก้อนหินก็ประโยชน์ได้”
                นัท : “ใช่แล้ว!  อย่างที่ปู่เคยบอกว่า  การละเล่นที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านสามารถทำได้ง่ายๆโดยที่เราไม่ต้องเสียเงิน”
                แนน : “งั้น เรามาเล่นต่อกันเถอะ”
                นัท  นุ่น “ได้เลย”


                                                                                                                                      อุไร  ลักขณา

ตอนที่ 4เล่นขายของ (หมากเฮือนน้อย)


                เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน นัท  นุ่น  แนน  ก็ได้การบ้านจากคุณครู นิตยา  ไชยสิทธิ์  ที่เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ นุ่นพูดว่า “นัทๆ  เราไปชวน  นนท์ ไปเล่นกับเราดีกว่านะ  นนท์เก่งคณิตศาสตร์ด้วยเราจะได้เข้าใจคณิตศาสตร์และทำการบ้านเสร็จด้วย  อีกอย่างจะได้มีเพื่อนเล่นขายของกับเราด้วยจะได้ครบทีมพอดีเลย  ถ้าเล่นขายของ(เล่นเฮือนน้อย)  แล้วเพื่อนไม่ครบทีมมันก็จะไม่สนุกเลย”
                นัท : “นนท์ๆ  ไปเล่นบ้านนุ่นกับนัทไหมเราทำการบ้านเสร็จเราก็เล่นกันเลย  ไปนะๆ  นะนนท์”
                นนท์ “ได้ๆ  นนท์ก็ยังไม่ได้ไปเล่นบ้านนุ่นมานานแล้ว  แล้วเราจะเล่นอะไรกันดี”
                นัท : “นุ่นบอกว่าจะพาเล่นขายของ  แล้วเล่นยังไงหรอนนท์ไม่เคยเล่น”
                นัท : “เดี๋ยวนุ่นเขาจะพาเล่นเอง”
                นนท์ : “อ๋อ  งั้นเราไปกัน”
                การเล่นเฮือนน้อย  หรือ  เล่นขายของ  จะเล่นได้ทั่วไป  ไม่ว่าจะเป็นที่ลานบ้าน  ป่าล่ะเมาะ  ทุ่งนา  ใต้ร่มไม้ สามารถเล่นได้ทั้งผู้ชายและและผู้หญิง  ไม่ได้จำกัดจำนวน  แต่เด็กผู้หญิงอย่างนุ่น  แนน จะนิยมเล่นกันมากกว่าผู้ชายอย่างนัท และนนท์ 
                ปกรณ์ในการเล่นก็จะมี  หม้อข้าว  หม้อแกง  กะลามะพร้าว  ถ้วย  ชาม  ช้อนเก่าๆ  ตุ่ม  ไห  เศษวัสดุเหลือใช้ต่างๆ  ตามที่จะหาได้  ส่วนวิธีการเล่นก็ไม่อยากนะ    จะสมมติตนเองเป็นครอบครัว  หรือครัวเรือนโดยมีหลายครอบครัว  ในแต่ละครอบครัวจะแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะเป็น  พ่อ  แม่ และเป็น ลูก  ในแต่ละครอบครัวจะมีการสร้างกระท่อมที่พักและจัดหาหม้อข้าวหม้อแกง  ถ้วยชาม  ช้อน  ซึ่งเป็นของเด็กเล่น  หรือของจริงขนาดเล็ก  แล้วช่วยกันหาเศษใบไม้ใบหญ้า  หรือพืชผักตลอดจนวัสดุอื่นๆ  สมมติว่าใช้ปรุงอาหารหรือทำขนม  เพื่อขายให้คนอื่นหรือไว้สำหรับกินร่วมกัน  โดยจะใช้เศษกระดาษหรือใบไม้แทนเงินในการซื้อขาย  การเล่นเฮือนน้องจะเป็นการเล่นเหมือนความจริงนะ หรือสภาพจริงทุกอย่างเลย

                นัทและนนท์พูดขึ้นพร้อมกันว่า  “โอ้โฮ”  แล้วนัทก็พูดต่อว่า “ แล้วเราเอาใบไม้มาแทนเงินแล้วสามารถแทนอย่างอื่นได้ไหม นุ่นตอบทันทีว่า “ได้ซิ  โดยเฉพาะดอกอัญชัน  เมื่อเรานำดอกอัญชันไปขยี้กับน้ำก็จะเกิดเป็นสีม่วง และก็ยังมีใบหญ้านางที่มันทำให้เกิดเป็นน้ำสีเขียวอีกด้วย  การเล่นขายของหรือ การเล่นเฮือนน้อย  ทำให้เกิดการริเริ่ม  การสร้างสรรค์  การสร้างจินตนาการ  การสร้างสัมพันธภาพ  ความรักความสามัคคี  ฝึกการใช้ภาษา  การซื้อขายการแลกเงินและการทอนเงิน”  นัท  แนน  นนท์ พูดพร้อมกันอย่างเสียงดังว่า  “โอ้โฮ!  ชั่งเป็นของเล่นที่แสนสนุกจริงๆเลย  สิ่งของที่เอามาเล่นก็หาได้ง่ายมาก  เราไม่ได้เสียเงินเลย  แถมยังให้ประโยชน์ต่อเราตั้งหลายอย่างทำให้เราได้รับความรู้มากมาย”  นัท  นุ่น  แนน และนนท์ก็เล่นกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขไปกับการเล่นเฮือนน้อยหรือเล่นขายของ   


                                                                                                                                           อุไร  ลักขณา     

วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560


ตอนที่ 2
โถกเถกวิเศษจริง



                 เริ่มต้นของเช้าวันใหม่ แสงอรุณเบิกฟ้าแสงสีทองเหลืองอร่ามสาดส่องผ่านช่องเล็กๆ อยู่หน้าบ้านของปู่          หมู๋มีหลานเป็นเป็นเด็กช่างถามและช่างสังเกต  เสียงเรียกปู่ ปู่ครับ ปู่ครับ ดังแว้วมาแต่ไกลพร้อมกับเสียงวิ่ง            บนบ้านลงบันไดอย่างรวดเร็วของฝีเท้าเล็กๆ เสียงอย่างนี้ไม่ใช่เสียงของคนอื่นไกลที่ไหนเลยนอกจากเสียง              ของน้องนัทหลนคนเดียวที่ปู่หมู๋รักมากที่สุด น้องนัทใส่รองเท้าเสร็จก็วิ่งพุ่งตรงไปหาปู่หมู๋อย่างรวดเร็ว เพราะ            ปู่หมู๋กับน้องนัทไว้ว่าจะทำของเล่นให้กับน้องนัท 1 อย่าง พอน้องนัทไปถึงก็ทวงถามสัญญากับปู่หมู๋อย่างเร็ว
                        นัท : "ปู่ครับ ไหนของเล่นที่หลานบอกให้ปู่ทำให้ 1 อย่าง ปู่ทำอะไรให้นัทหรอครับ"
                        ปู่หมู่ : "นั่นไง ของเล่นของหลาน"
                        นัท : "ไหนครับปู่ หลานเห็นแต่ลำไม้ไผ่ที่ที่ไม่ยาวมากสองลำ ปู่ยังไม่ทำให้หลานเลย"
                        ปู่หมู๋ : "ปู่ทำแล้ว หลานเห็นท่อนไม้เล็กๆที่ปู่เอาใส่ในลำไม้ไผ่นั้นไหม ปู่เอาไว้ให้หลานเหยียบ มัน             เป็นไม้วิเศษช่วยให้เราเดินได้ไกลและเราก็ไม่ต้องเหยียบดินด้วย"
                        นัท : "โฮ๋ ไม้ไผ่นี้มีประโยชน์จริงๆ  แล้วมันเล่อนยังไงหรอปู่"
                        ปู่หมู๋ : มาเดี๋ยวปู่สอนเล่น หลานก็แค่ขึ้นไปเหยียบบนไม้ที่ปู่ทำไว้ทั้งสองข้าง แล้วปู่จะคอยพยุงข้าง             หลังหลาน ให้หลานพยุงตัวแล้วเดินได้เสียก่อนปู่ถึงจะปล่อยหลานแล้วให้หลานนั้นเดินเอง"
                        นัท : "ปู่ครับลองปล่อยนัทซิครับ นัทจะเดินเอง" แล้วปู่ก็ปล่อยให้น้องนัทเดินเอง
               นัทเมื่อเล่นได้แล้วก็รู้สึกเพลิดเพลินไปกับของเล่นใหม่ที่ปู่ทำให้ใบหน้าของน้งนัทย้มบานเหมือนกับได้ของ          ขวัญชิ้นใหญ่มาก นัทเล่นของเล่นที่ปู่ทำให้อย่างมีความสุข ปู่หมู๋ผู้ทำของเล่นให้หลานก็มีความสุขไปด้วย              มองไปที่พื้นกลับเห็นรองรอยแห่งความสุขของหลานตนเอง แล้วน้องนัทก็หยุดเล่นแล้วบอกกับปู่ว่า "ปู่ครับ              นัทจะไปชวนนุ่นมาเล่นด้วยกัน นัทฝากของเล่นก่อนนะปู่" นัทวิ่งไปหานุน บ้านองนุ่นอยู่ถัดจากบ้านของปู่หมู่          ไป 4 หลัง เสียงนัทตะโกนเรียกนุ่นอย่างดัง "นุ่น นุ่น นุ่น ป่ะไปเล่นของเล่นใหม่กับนัท ปู่ทำให้ นะนุ่นนะ เดี๋ยว          นัทจะสอน สนุกนะนุ่น จริงๆ" นุ่นเด็กหญิงหน้ารักเป็นเพื่อนกับนัท นุ่นสูง 100 เซนติเมตร เมื่อได้ยินนัทพูดว่า          สนุกก็ไปเล่นด้วย นัทบอกวิธีการเล่นให้นุ่นฟังแล้วให้นุ่นทำาม นัทและนุ่นก็เล่นอย่างมีความสุข "ไม่น่าเชื่อว่า          แค่ไม้ไผ่แค่สองลำเป็นของเล่นที่สนุกได้ด้วน วันหลังจะให้ปู่ทำอย่างอื่นให้ดีกว่าจะได้ชวนเพื่อนคนอื่นมาเล่น            ด้วย เย้! เย้! เย้! ดีใจจังเลย






                                                                                                                                  อุไร     ลักขณา

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560


ปู่เจ้าปัญญา



                   เสียงกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุขของฝีเท้าเล็กๆ ที่เหยียบย้ำเดินไปมา
            รอยเท้าเล็กๆนั้นเต็มบริเวณหน้าบ้านไปหมด มองไปมีแสงแวววาวที่พื้นดินนั้นเหมือนมี
            ทองเหลืองอร่ามไปทั่วพื้นดิน ปู่หมู๋ได้ยินจึงพูดกับหลาน
                            ปู่หมู๋ : "นัทวิ่งเล่นก็ระมัดระวังหน่อยนะเดี๋ยวจะหกล้มเอา"
                            นัท :  "ไม่หรอกครับผมระวังอยู่"
                            ปู่หมู๋ : "ไหมมาหาปู๋หน่อยลูก  ปู่มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง"
                             นัท : "ปู่ปู่มีเรื่องอะไรจะเล่าให้นัทฟังหรอ  แล้วปู่ทำอะไรอยู่ทำไม่มันสวยจัง
                            ปู่หมู๋ : "ปู่จะเล่าให้ฟังนะ"
                    เมื่อหลานถามปู่หมู๋จึงเล่าให้หลานฟัง  ในเวลาเนินนานมาแล้วมีชาวสวนที่ชื่อตามี
            ไปพบเจอก่อไม้ไผ่ที่หักลงมาทับสวนของตามี เมื่อลมฝนพายุพัดกระหน่ำ ตามีก็จะได้ยิน
            เสียงอี้ดๆๆๆ  อยู่ตลอดเวลา  เสียงลมพายุนั้นพัดกระหน่ำมาอย่างแรงจนทำให้ไม้ไผ่หักโค้น
            ลงมาหลายลำ  ตามีรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อไม้ไผ่นั้นหักลงมาใส่สวนของตน
            ตามีจึงคิดจะตัดไม้ไผ่นั้นทิ้งทั้งหมด แต่พอยายนามาเห็นจึงพูดขึ้นว่า
                            ยายนา : "ตามี ตาจะทำอะไรน่ะ  ไม้ไผ่นั้นมีประโยชน์นะ"
                            ตามี : "จะเอาไปทำอะไรได้นอกจากก่อไฟ"
                            ยายนา : ไม้ไผ่สามารถทำประโยชน์ได้หลายอย่าง ทำแคร่ ทำรั้ว ทำตะกร้าและอีก                    มากมายเลย  ไม่ใช่แค่ไม้ไผ่นะที่มีประโยชน์ ไม้ทุกชนิดมีประโยชน์ในตัวเองหมดนะตา
                            ตามี : "จริงหรอยายนา งั้นตาว่าเราจะตัดลำไม้ไผ่ที่มันหักโค้นไปทำอะไรดีละยาย
                    หลานนัทนั่งฟังตาหมู๋เล่าพร้อมกับคิดไปด้วย ในบรรยากาศที่เงียบกริบ นัทเด็กชาย
            ที่ชั่งถามก็มองดูปู่หมู๋อย่างไม่ละสายตา เสียงตาหมู๋จักรสานตะกร้าอย่างเบา บางฝีมือแทบจะ
            ไม่ได้ยินเสียงเสียดสีของไม้ นัทนั่งมองปู่หมู๋อยู่นานพร้อมกับพูดขึ้นว่า "ปู่ครับ" จนทำให้
            ปู่หมู๋ต้องตกใจ ไม้ไผ่ที่ว่าสามารถทำได้หลายอย่างจริงหรอ แล้วทำของเล่นให้นัทได้ไหมครับ
            ปู่หมู๋ก็พูดขึ้นว่า "ได้สิ ภูมิปัญญาของชาวบ้านเรามีมาตั้งมากมาย มีมาตั้งแต่รุ่นทวดแล้ว
            ไม่ว่าจะเป็นการทำมาหากิน เรื่องการค้าขาย เรื่องการปลูกพืช  เรื่องนิทาน และรวมไปถึงเรื่อง                    ของเล่นของหลานด้วย"
                    นัทด้วยความที่เป็นเด็กชั่งถาม ก็ถามปู่หมู๋อีกว่า "จากที่ปู่เล่าให้นัทฟัง ยายนาได้บอกว่า
            นอกจากไม้ไผ่แล้ว ไม้อย่างอื่นหรือสิ่งอย่างอื่นก็สามารถทำได้ด้วยหรอ" ปู่หมู๋มองหน้าหลาน                   ของตนพร้อมกับหยุดสานตะกร้าแล้ววางไว้ข้างตน แล้วตอบคำถามของหลานว่า
            "ทำได้สิหลาน เดี๋ยวปู่จะยกตัวอย่างให้หลานฟัง ต้นกล้วยที่สามารถออกผล ใช้ใบเสร็จแล้ว
            เรายังสามารถนำมาเป็นปืนให้หลานได้ด้วยและอีกตัวอย่างนะหลานกะลามะพร้าวที่เราใช้แล้ว
            ยังสามารถนำมาร้อยเชือกใส่นำมาเดินแข่งกันได้และยังนำใส่น้ำเล่นขายของหรือ "เล่นเฮือน                   น้อย"นี้เองแหละหลาน" งั้นปู่จะพามารู้จักกับคำว่าการละเล่นนะหลาน
                      "การละเล่น" หมายถึงการกระทำกิจกรรมใดๆที่ทำให้เรานั้นมีความสุขสนุกสนาน                            เพลิดเพลินรื่นเริงบันเทิงใจ มักจะมีกติกาการเล่นหรือการแข่งขันง่ายๆ ที่ไม่สลับซับซ้อนมากนัก              จุดประสงค์ส่วนใหญ่ก็เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน เพื่ออกกำลังกาย และก็ให้เกิดความสัมพันธ์                และความรู้รักสามัคคีระหว่างผู้เล่นและผู้ชมนะหลาน กติกาที่กำหนดขึ้นไว้ก่อนและเคยปฏิบัตร                มาแล้วหรือ ตกลงกันตั้งขึ้นขณะจะเริ่มเล่นก็ได้ จะไม่พิถีพิถันในเรื่องกฏกติกาในการเล่น
                 
                         พอปู่พูดเสร็จ ปู่ก็ยิ้มให้หลานและมองไปที่ตาของหลาน ปู่มองเห็น
            ในตาของหลานเหมือนมีประกายแวววาว แล้วหลานก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า "ปู่ครับ หลานมีอะไร               ให้ปู่ช่วย ปู่ช่วยทำของเล่นให้นัทหน่อยนะ นะปู่นะ.... นัทจะเอาไปเล่นกับเพื่อน แล้วปู่ก็ยิ้มแล้ว                 บอกว่าจะทำให้ แล้วปู่ก็บอกกับนัทว่า การละเล่นไม่ใช่แค่เล่นเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน                  เท่านั้นแต่ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีความรู้ มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาและมีสุขภาพจิตใจที่              เบิกบานด้วยนะ  โอ้โฮ๋!! อัศจรรย์จริงๆครับปู่ แล้วนัทก็ยิ้มพร้อมกับกระโดดโลดเล่นออกห่างปู่                  อย่างมีความสุข เมื่อปู่รับปากว่าจะทำของเล่นให้  นัทพูดพางบอกว่าปู่ใจดีจังจะได้เล่นกับเพื่อน                แล้ว... แล้วเสียงของนัทก็ค่อยๆเบาลง และจางหายไป







                                                                                                                             อุไร   ลักขณา